ประกาศ TCAS65 ทปอ.แจ้งให้คะแนนข้อสอบวิชา PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 1 ข้อ และ วิชาสามัญ วิชาฟิสิกส์ ปรับให้ถูก 2 คำตอบ จำนวน 1 ข้อ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 ทาง ทปอ. หรือ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ได้ประกาศผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก Mytcas.com แจกคะแนนฟรีวิชา PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 1 ข้อ และ วิชาสามัญ วิชาฟิสิกส์ จำนวน 1 ข้อ โดยระบุว่า “ประกาศ TCAS65
เรื่องการเฉลยข้อสอบวิชา PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และวิชาสามัญ วิชาฟิสิกส์
ด้วยการจัดทำข้อสอบ PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ ชุดที่ 1 ในขั้นตอนของการดำเนินการผลิต Template มีการปรับขนาดของตัวอักษรบางตัว เพื่อความชัดเจน แต่เกิดความผิดพลาดในการดำเนินการแก้ข้อสอบข้อ 41 ซึ่งในโจทย์คำถามต้องมีอักษร “x” ทำให้อักษรดังกล่าวขาดหายไป แม้จะมีรูปภาพประกอบที่ชัดเจน แต่ถือได้ว่า ข้อสอบขาดความสมบูรณ์ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดผล และอาจจะทำให้มีความไม่เสมอภาคเกี่ยวกับโอกาสในการตอบข้อสอบข้อนี้ได้ถูกต้อง ดังนั้น จึงต้องยกคะแนนข้อสอบดังกล่าวนี้ ให้กับผู้สอบทุกคนทั้ง ผู้ที่สอบแบบทดสอบชุดที่ 1 คือ ข้อ 41 และผู้ที่สอบแบบทดสอบชุดที่ 2 คือ ข้อ 40
สำหรับวิชาฟิสิกส์ ชุดที่ 1 ข้อ 1 และชุดที่ 2 ข้อ 5 ตามที่ได้มีการทักท้วงอย่างเป็นทางการมายัง ทปอ. คณะกรรมการพัฒนาข้อสอบ ได้มีมติให้ ตัวเลือกที่ 4 คือ 58.4 และตัวเลือก 3 คือ 58 เป็นคำตอบที่ถูกต้องทั้งสองตัวเลือก ในส่วนของวิชาอื่น ๆ เช่นวิชาสังคม วิชาภาษาฝรั่งเศส คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีผลให้เปลี่ยนแปลงเฉลยข้อสอบ ทปอ. ขอขอบคุณทุกท่านที่ทักท้วงอย่างสร้างสรรค์ มายัง ทปอ. เพื่อให้การสอบครั้งนี้เป็นธรรมมากที่สุดกับผู้เข้าสอบทุกคน
ล่าสุด 6 ม.ค. 65 เพจ “หมอยาพาเพลิน” ได้โพสต์อ้างอิงข้อมูลจาก ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการและผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ยาสมุนไพร ไว้ดังนี้
“ตาเรืองแสง ตาเปลี่ยนสี จากการใช้ Favipiravir เกิดจากการสะสมของยาบริเวณอิลาสติน คอลลาเจน และเม็ดสีเมลานินในเนื้อเยื่อร่างกาย จากการที่ตัวยา favipiravir เอง หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในยาเช่น titanium dioxide, ferric oxide yellow มีคุณสมบัติเรืองแสงได้
‘หมอมนูญ’ เผย ติดโควิดซ้ำรอบ 2 ใน 1 เดือน ได้ แม้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
หมอมนูญ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า พบคน ติดโควิดซ้ำรอบ 2 ใน 1 เดือน แม้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการที่มีผู้ป่วยโควิดที่หายป่วยโควิดแล้ว ติดโควิดซ้ำ 2 ครั้ง ในช่วงเพียงแค่เดือนเดียว
โดยหมอมนูญระบุว่า “คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสและได้เข็มกระตุ้นแล้ว ยังติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 2 ครั้งใน 1 เดือน ผู้ป่วยหญิงอายุ 27 ปี เป็นพยาบาล ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มียาประจำ ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และไฟเซอร์ 2 เข็ม เข็มสุดท้ายเดือนมกราคม 2565
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 มีอาการระคายคอ หลังจากใกล้ชิดกับคนในบ้านที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ตรวจ RT-PCR SARS-CoV-2 ให้ผลบวก RdRp/N gene Ct Value 30.59 มีอาการเล็กน้อย หลังจากกักตัวที่บ้าน 10 วัน กลับมาทำงานได้
วันที่ 19 มีนาคม 2565 มีอาการเจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก 23 มีนาคม 2565 ตรวจ ATK ให้ผลบวก ยืนยันโดยการตรวจ RT-PCR SARS-CoV-2 ให้ผลบวก RdRp/N gene Ct Value 2.96 เอกซเรย์ปอดปกติ ครั้งนี้ไม่ทราบว่าติดจากใคร อาการไม่มาก ไม่ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล หลังกักตัวที่บ้าน 10 วัน หายเป็นปกติ กลับมาทำงานได้ (ผู้ป่วยอนุญาตให้เผยแพร่ภาพ)
การฉีดวัคซีน 4 เข็มไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรกเป็นวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มหลังเป็นวัคซีน mRNA ได้วัคซีนไฟเซอร์เข็มสุดท้าย 1 เดือนก่อนที่จะติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนครั้งแรก และติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนครั้งที่ 2 อีก 1 เดือนถัดมา
ครั้งแรกคาดว่าเป็นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ครั้งที่ 2 เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 การติดเชื้อสายพันธุ์ BA.1 ปกติจะมีภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยตัวอื่นๆได้ดี แต่มีบางคนเกิดภูมิคุ้มกันเฉพาะ BA.1 ภูมิคุ้มกันไม่ข้ามไปป้องกัน BA.2 จึงทำให้เกิดการติดเชื้อครั้งที่ 2 ได้ โอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 2 ครั้งใน 1 เดือนน้อยมาก เพียง 1 ใน 4 หมื่นคนเท่านั้น”
บางรายงานพบผู้ป่วยตาพร่ามัวชั่วคราวร่วมกับการเห็นแสงสะท้อนสีฟ้าจากดวงตาภายใต้แสง UV หลังใช้ยาไป 2 วัน ความเข้มข้นของระดับยาในเลือดสัมพันธ์กับการสะสมของยาในร่างกายและการเรืองแสงของตา เส้นผม เล็บ
โดยมีรายงานว่าขนาดยาที่ทำให้เกิดการเรืองแสงพบได้ตั้งแต่ 5,600-8,000 มิลลิกรัมต่อช่วงการรักษา แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ อาการตาเรืองแสงหรือตาสีฟ้าไม่มีรายงานว่าเป็นอันตราย ตาจะกลับมาเป็นสีปกติเองหลังหยุดยา”